วันศุกร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2561

ปฏิหาริย์ ชีวประวัติ คำสอน หลวงปู่แหวน สุจิณโณ ตอนที่ 1

... ก่อนอื่นขอกล่าวถึง พระอาจารย์สิงห์ ขนตยาคโม สักเล็กน้อย ... พระอาจารย์สิงห์ เป็นชาวอุบลฯโดยกำเนิด เกิดที่บ้านหนองขอน หัวตะพาน
... ท่านเป็นพระอาจารย์องค์แรกที่ได้ปวารณาตัวเข้าเป็นสิษย์พระอาจารย์มั่น เป็นศิษย์ก้นกุฏิอยู่ถึง 12 ปี เป็นศิษย์เอกสูงสุดเปรียบได้กับแขนซ้ายและขวาของพระอาจารย์มั่นในการเผยแพร่ พระสัทธรรมให้แพร่หลายกว้างขวางในสมัยนั้น ... พระอาจารย์มั่นท่านสมถะชอบธุดงควัตรสัญจรร่อนเร่ไปตามป่าตามเขาแต่โดดเดี่ยว ไม่ชอบยุ่งเกี่ยวกับพระและฆราวาสชาวบ้านเท่าไหร่นัก​
                                                         

                                                                    "ช้างเผือกในป่า"​
... พระอาจารย์สิงห์ ขนุตยาคโม กำลังจะสรงน้ำในตอนเย็นที่วัดสร้างถ่อ อำเภอเกษมสีมา จังหวัดอุบลราชธานี ... ก็เหลือบเห็นพระภิษุรูปหนึ่งกำลังเดินมากับสามเณรน้อยรูปหนึ่ง พระอาจารย์สิงห์จึงหยุดดูด้วยความสนใจ ... เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในตอนเย็นวันนั้น ในปีพุทธศักราช 2445 ที่ล่วงมาแล้ว
... พระอาจารย์สิงห์ได้เห็น " นิมิต " ปรากฏที่ร่างของสามาณรน้อยรูปนั้น เป็นแสงโอภาสออกจากกายคล้ายรัศมีของผู้มีบุญญาอภินิหาร ก็รู้สึกประหลาดใจก็เอามือขยี้ตาตนเองเข้าใจไปว่าตาฝ่าดไปอันเกิดจากแสงแดด หลอนนัยตา เมื่อขยี้ตาแล้วก็ยังมองเห็นกระแสรัศมีนั้นปรากฏอยู่ที่ร่างสามเณรน้อยที่ กำลังเดินฝ่าเปลวแดดเข้ามาในวัด ... ประมาณอึดใจใหญ่ๆ รัศมีนั้นก็พลันหายไป ... พระอาจารย์สิงห์ก็ล่วงรู้ได้ด้วยอำนาจญาณทันทีว่า สามเณรน้อยผู้นี้เป็นผู้มีบุญญาบารมีมาเกิด .. ท่านจึงเปลี่ยนใจไม่สรงน้ำรีบคว้าจีวรมานุ่งเรียบร้อยแล้วนั่งรออยู่บนกุฏิ ... พระภิกษุและสามเณรน้อยรูปนั้น ขึ้นกุฏิมากราบนมัสการ พระอาจารย์สิงห์ แล้วแนะนำตัวเองว่าชื่อพระภิษุกอ้วนมาจากวัดโพธิชัย บ้านนาโป่ง ริมฝั่งแม่น้ำฮวย เมืองเลย พระภิษุกอ้วนมีศักดิ์เป็นอาของสามเณรน้อยที่พามาด้วย

                   "พระภิกษุอ้วน เป็นจ้าวอาวาสวัดโพธิชัย สมัยหลวงปู่แหวนยังเป็นสามเณร​"
... สามเณรน้อยผู้นี้มีชื่อว่า " ยาน " แต่เมื่อบรรพชาเป็นสามเณรแล้วได้เปลี่ยนชื่อให้เป็นคนใหม่ชื่อ " แหวน " ... " อ้อ..ชื่อแหวนเหร๋อ " พระอาจารย์สิงห์อุทานอย่างชื่นชมยินดี สามเษรน้อยนามว่าแหวน ก้มกราบอีกครั้ง พนมมือตอบแบบอายๆ ว่า เป็นชื่อที่ย่าตั้งให้ ... " ชื่อแหวนนี่ดี แหวนเป็นเครื่องประดับกายของมนุษย์ ย่อมที่จะประดับในนิ้วมือ คนไม่มีมือ คือ คนมือด้วน มือจึงเป็นของสำคัญพอๆ กับสติปัญญาของมนุษย์
... ต่อมาพระอาจารย์สิงห์ได้สักถามพระภิกษุอ้วนถึงประวัติความเป็นมา ... พระภิกษุอ้วนเล่าว่า สามเณรแหวนซึ่งเป็นหลานรักได้บวชเรียนมาสองพรรษาแล้วที่วัดโพธิชัย บ้านนาโป่ง จังหวัดเลย เวลานี้อายุได้ 14 ปี บิดาชื่อนายสาย มารดาชื่อนางแก้ว มีพี่น้องร่วมสายโลหิตเดียวกันสองคน คือ นางเบ็ง พี่สาว .. บิดาไปมีภรรยาใหม่มีน้องต่างมารดาอีกคนชื่อ โสภา ( ต่อมาโสภาได้บรรพชาเป็นสามเณรแล้วย้ายไปอยู่วัดอื่นไม่รู้ข่าวคราวและสาปสูญ ไปจนกระทั่งทุกวันนี้ ) ... อาชีพของบิดา คือ ทำนา สืบเชื้อสายมาจากชาวหลวงพระบาง อาชีพอีกอย่างหนึ่งของนายสาย คือ ช่างตีเหล็กมีความชำนาณในการหลอมเหล็กดีมากเป็นที่เลื่องลือ ... ที่พาสามเณรแหวนมานี่เพื่อนำตัวมาฝากกับพระอาจารย์สิงห์เพื่อขอศึกาบาลี นักธรรม
... ด้วยว่าสำนักแห่งนี้มีชื่อเสียงโด่งดัง มีพระเณรจากหัวเมืองต่างๆในอีสานเดินทางมาฝากตัวเป็นลูกศิษย์มากมาย ... พระอาจารย์สิงห์ได้ทราบความประสงค์แล้วก็มีความยินดี มองพินิจพิจารณาสามเณรน้อยรูปร่างผิวพรรณเกลี้ยงเกลาขาวสะอาด นัยน์ตาสุกใสบริสุทธิ์ท่าทางสมถะสำรวมมีสง่าราศี อย่างประหลาด
" นี่คือ ช้างเผือกแก้วเกิดในป่าแน่แล้ว " ... จตากนั้นจึงพาไปที่กุฏิเจ้าอาวาส คือ พระอาจารย์หลี นมัสการแนะนำตัวให้รู้จักไว้ตามธรรมเนียม ... พระอาจารย์หลีมีความยินดี อนุยาติให้พระอาจารย์สิงห์รับสามเณรแหวนไว้ ขณะนั้นมีสามเณรที่เข้ามาศึกาเป็นจำนวน 70 องคื โดยมีพระอาจารย์สิงหืเป็นพระอาจารย์ใหญ่ ... แต่ตอนนั้นพระอาจารย์สิงห์ยังไม่ได้เข้ายัติปวารณาตัวเข้าเป็นศิย์ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต แต่อย่างใด​
เครดิต เวป หลวงปู่แหวน สุจิณโณ...ยอดอริยเจ้า จากบล็อก โอเคเนชั่น oknation.net

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น